กำเนิดญี่ปุ่น เทพญี่ปุ่น ภาค 6 อีกา 3 ขา ยาตาการะสึผู้ชี้ทางสว่าง และดินแดนแห่งแมลงปอ

Yatagarasu อีกา3ขา นกประจำตัวของเทพีอมาเทราสึ

ยุคแห่งการขยายอานาเขต

เมื่อ อุกายะฟูกิอะเอสึ (ลูกของนินิงิ และ โคโนฮานะซากุยะ) นั้นปักหลักสร้างครอบครัวสร้างเขตอำนาจของตนอยู่ตรงบริวณ โทดาชิโฮะ (Tokachiho) ปัจจุบันตั้งอยู่เขตจังหวัด มิยาชากิ (Miyazaki) ทางทิศตะวันออกเฉียงไต้ของเกาะคิวชู เมื่อลูกๆเติบโตขึ้น อิสึเสะ บุตรคนโตก็ได้พาน้องๆออกไปหาที่ทำกินแห่งใหม่ เพื่อต้องการจะขยับขยายเขตแดนออกไปให้กว้างไกลขึ้น เนื่องจากที่แห่งเดิม นั้นไม่เหมาะแก่การขยับขยาย

เหล่าพี่น้องและจิมมุ อยู่ที่มลฑลฮีวงะ เกาะคิวชูได้ประชุมพร้อมทั้งเสนา อำมาตย์ผู้ภักดี เห็นพ้องต้องกันว่าทางตะวันออก มีเหล่าร้ายคอยปล้นสดมภ์ราษฎร์อยู่ เพื่อเป็นการช่วยเหลือราษฎร์จึงจำเป็นต้องไปปราบและเป็นการขยายอาณาเขตด้วย จึงมุ่งหน้าขึ้นไปทางทิศเหนือ และข้ามทะเลในเซโตะ (Seto) จากนั้นจึงไปขึ้นฝั่งที่ นานิวะ (Naniwa) หรือ โอชากา (Osaka) ในปัจจุบัน แต่เมื่อขึ้นฝั่ง อิสึเสะ และน้องๆของเขา ก็ต้องเผชิญกับชนเผ่าที่อยู่มาก่อน ซึ่งมีหัวหน้าชื่อ นางาซึเนะฮิโกะ (Nagasunehiko) เมื่อนากาซึเนะฮิโกะทราบว่าทัพหลวงยกทัพมาก็จริง จึงได้รีบยกทัพมาต้านเช่นกัน เพราะเป็นคนในพื้นที่ จึงอาศัยความรู้เรื่องการเลือกชัยภูมิ ทำให้ได้เปรียบฝ่ายของจิมมุ

ในการสู้รบครั้งนั้น อิสึเสะ พลาดท่าเสียที จึงถูก นางาซึเนะฮิโกะ สังหารระหว่างการต่อสู้ จิมมุ น้องสุดท้องซึ่งนิ่งดูการต่อสู้ของพี่ชายอย่างตั้งใจ ได้วิเคราะห์ไปถึงความพ่ายแพ้ของ อิสึเสะ ผู้เป็นพี่ชาย ว่าเป็นเพราะชัยภูมิที่พี่ชายปักหลักต่อสู้อยู่นั้น เป็นรองต่อ นางาซึเนะฮิโกะ เนื่องจาก อิสึเสะ หันหันไปทางทิศตะวันออกจึงถูกแสงอาทิตย์สาดแสงเข้าใส่ จิมมุ ต้องการแก้มือให้พี่ชาย จึงย้ายตำแหน่งไปขึ้นฝั่งทางทิศตะวันออกของนานิวะบ้าง คือที่ คูมาโนะ (Kumano) ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตจังหวัด วากายามะ (Wakayama) แล้วทำสงครามกับ นางาซึเนะฮิโกะ ซึ่งในครั้งนี้ จิมมุ เป็นฝ่ายมีชัยในการรบตามแผนการที่ทางไว้

อีกา 3 ขา ยาตาการะสึ อีกาผู้ชี้ทางสว่าง

ภายหลังจากได้รับชัยชนะ เทพีแห่งดวงอาทิย์ อมาเทราสึ ผู้ซึ่งมีลำดับ แม่ของปู่ของปู่ จิมมุ จึงเห็นสมควรแก่เวลาที่จะ ให้ จิมมุ ก่อร่างสร้างอาณาจักรให้เป็นปึกแผ่นเสียที จึงส่ง “อีกา 3 ขา” ชื่อ ยาตาการะสี (Yatagarasu) * ลงมาเป็นผู้ชี้ทาง ส่งแสงสว่างให้แก่ จิมมุ ผู้ที่จะต้องทำการใหญ่ในครั้งนี้

จิมมุ มุ่งหน้าสู่ ยามาโตะ(Yamato) หรือจังหวัด นาระ (Nara)ในปัจจุบัน ซึ่งที่ ยามาโตะ ในเวลานั้นได้มีบุคคลผู้หนึ่งนามว่า นิงิฮายาฮิ (Nigihayahi) อ้างตนว่าเป็นผู้สืบสายจากเทพแห่งสวรรค์องค์หนึ่งตั้งตนขึ้นเป็นใหญ่อยู่ก่อนแล้ว แต่พอ จิมมุ เดินทางมาถึงยามาโตะ หลังจากที่ นิงิฮายาฮิ ได้พบกับจิมมุเป็นครั้งแรก ด้วยรัศมีที่เปล่งจรัญ ซึ่งมาพร้อมกับ ยาตาการะสึ ที่ปรากฏต่อหน้านั้น นิงิฮายาฮิ สามารถทราบทันทีว่า จิมมุ ก็คือผู้สืบสายโลหิตจากเทพีอมาเทราสี โดยแท้จริง และเป็นผู้มีบุญญาธิการ ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นผู้สร้างประเทศญี่ปุ่นขึ้นอย่างแท้จริง จึงยอมเข้าคารวะ และยกตำแหน่งประมุข ยามาโตะ ให้แก่จิมมุขึ้นครองราชโดยง่าย

หมายเหตุ

  • * อีกา 3 ขา อีกาสามขา เป็นอีกาตัวสีดำ มีขาสามขา อีกาสามขา เป็นนกประจำองค์อมาเทราสึ เทพีแห่งดวงอาทิตย์ (พงศาวดารญี่ปุ่น) มีบันทึกในประวัติพงศวดารจีนบันทีกไว้ว่า หลังการสร้างโลก ในสมัยฮ่องเต้เหยา มีดวงอาทิตย์ปรากฏพร้อมกันถึง 10 ดวง โลกร้อนมาก อีกาสามขาเป็นนกประจำดวงอาทิตย์ เช่นเดียวกับกระต่ายแห่งดวงจันทร์ สร้างความเดือดร้อนแก่มนุษย์เป็นอย่างยิ่ง เง็กเซียนฮ่องเต้จึงมีบัญชาให้โฮวอี้ใช้ธนูยิงให้ตก ด้วยความคะนองของโฮวอี้จึงยิงตกไป 9 ดวง เหลือแค่ดวงเดียว โลกจึงมีดวงอาทิตย์เพียงดวงเดียวเท่านั้น และอีกา3ขานี้ มีความสำคัญในการสร้างชาติญี่ปุ่นในครั้งนี้ด้วย
  • อีกา 3 ขา อีกาสามขาได้ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ แห่งสติปัญญาและอำนาจ และสำหรับประเทศเกาหลี ใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำราชวงศ์โคกูรยอ และพระเจ้าทงมย็องซ็อง ปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์โคกูรยอ ปัจจุบันทั้งญี่ปุ่นและเกาหลี ใช้เป็นสัญลักษณ์ของการเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาติ
  •  yatagarasu อีกา 3 ขา รู้หรือไม่ อีกา 3 ขา  ใช้เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสัญลักษณ์ทีมชาติญี่ปุ่น
Yatakarasu นก3ขาผู้ชี้ทางสว่าง

กษัตริย์จิมมุ พร้อมด้วยอีกา3ขา Yataterasu นกประจำตัวเทพีอามาเทราสึ

นิมิตของดินแดนแห่งแมงปอ

แล้วในวันหนึ่งเมื่อ จิมมุ ขึ้นไปยังยอดเขาแห่งหนึ่งเพื่อจะมองดูแผ่นดินที่ตนยึดครองมานับแต่ขึ้นฝั่งทะเลใน เซโตะ ก็เห็นว่ารูปร่างนั้นคล้ายกับรูปหัวใจที่เกิดจากภาพของแมลงปอ 2 ตัวกำลังผสมพันธุ์กัน ขณะเดียวกันก็มียุงตัวหนึ่งพยายามบินมาเกาะเพื่อดูดเลือดของ จิมมุ ก็มีแมลงปอตัวหนึ่งบินโฉบเข้ากินยุงตัวนั้นเสียก่อนที่จะทันได้กินเลือด นี่คือนิมิตหมายที่ดีในจุดเริ่มตันของการขยายอำนาจและรวบรวมแผ่นดินขึ้นเป็นประเทศญี่ปุ่นต่อไป จำกเหตุการณ์นี้เองที่ต่อมาจึงได้มีการเรียกชื่อประเทศญี่ปุ่นอีกชื่อว่า “อคิตสึชิมา (Akitsushimo)” หรือ”ดินแดนแห่งแมลงปอ” ซึ่งคำว่า อคิตสึ นั้นเป็นคำโบราณของชาวญี่ปุ่นแปลว่า แมลงปอ และจากเหตุการณ์เดียวกันนี้ช่นกันจึงมีคำเรียกกษัตริย์ญี่ปุ่นทุกพระองค์นับจากนั้นว่ “อดิตสีมิคามิ (Akitsumikom)” ซึ่งเป็นคำพ้องเสียงแต่มีความหมายต่างกันแปลว่า “เทพผู้มอบข้าวแห่งความอุดมสมบูรณ์” คำว่าอคิ นั้นแปลว่าข้าว สังคมญี่ปุ่นตั้งแต่โบราณนับเป็นสังคมเกษตรกรรมจึงบูชาพืชพรรณธัญญาหารต่างๆว่าเป็นสิ่งสูงส่ง โดยเฉพาะข้าวนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่พระเจ้ามอบให้แก่มนุษย์ในการดำรงชีวิตเป็นอย่างแรก การเรียกกษัคริย์แต่สมัยโราณว่า อดิตสีมิคามิจึงมีอีกความหมายหนึ่งที่ถูกใช้ต่อๆมามากกว่าความหมายว่ เทพผู้มอบข้าวแห่งความอุดมสมบูรณ์ ก็คือ “องค์สมมุติเทพ”หรือผู้สืบสายพระโลหิตแห่งสวรรค์นั่นเอง

Jimmu-fist-emperor-of-japan

ปฐมกษัตริย์และราชวงศ์ญี่ปุ่น

จิมมุ เมื่อครอง ยามาโตะ นั้น นับเป็นจุดเริ่มตันของระบบกษัตริย์และราชวงศ์ญี่ปุ่นหรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ราชวงศ์ ยามาโตะ (Yamato Dynasty) ซึ่งตามประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นถือว่านับจากกษัตริย์ จิมมุ ไปจนถึงราชินี จินกุ Jingu) ซึ่งมีสายวงศ์กษัตริย์สืบต่อกัน 15 พระองค์นั้น ถือเป็นสายวงศ์ในตำนาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับตำนานกพหรือเทพปกรณัมของญี่ปุ่น แต่หากเทียบกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่มีการแบ่งยุคสมัยจากหลักฐานทางโบราณคดีแล้ว
ช่วงเวลานับจากกษัตริย์ จิมมุ ไปจนถึงราชินี จินกู หรือช่วงกษัตริยในตำนาน ญี่ปุ่น ก็เทียบได้กับยุคสมัย โจมอง (Jomon) และ ยาโยอิ (Yayoi) ซึ่งเป็นยุค สมัยที่ 1 และที่ 2 ของอารยธรรมญี่ปุ่นภายหลังพ้นจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ เป็นตันมา  นับจากยุคสำริด ยุคเหล็ก และยุคโบราณ หรือประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสต์ศักราชจนถึงช่วงคริสต์ศตวรษที่ 3 (500 ปีก่อนพุทธศักราชจนถึง พุทธศตวรษที่ 8) หลังจากนั้นจึงเข้าสู่ยุคสมัย โคฟง (Kofon) ซึ่งถือเป็นยุคสมัยที่ 3 อันเป็นยุคเริ่มแรกของอารยธรรมญี่ปุนที่สืบทอดต่อกันมาจนกระทั่ง

ถึงทุกวันนี้อย่างแท้จริงในบันทึกประวัติศาสตร์ โคจิกิ กล่าวถึงกษัตริย์ จิมมุ ว่าครองบัลลังก์อยู่ จนกระทั่งถึงปี 585 ก่อนคริสต์ศักราช (พ.ศ. 42) พระชนม์ได้ 126 ปี แล้วจึงสืบต่อบัลลังก์แก่โอรสคือกษัตริย์ ซูอิเซ (Suzei) กษัตริย์ลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์ ยามาโตะ และจากกษัตริย์ ชูอิเซ แล้วยังมีกษัตริย์สืบต่อกันอีก 12 พระองค์ พอถึงสมัยของกษัตริย์ ชูไอ (Chuai) กษัตริย์องศ์นี้นั่งบัลลังก็ได้ เพียง 8 ปีจึงสิ้นพระชนม์ลง โดยโอรสในเวลานั้นคือ โอจิน (Ojก) มีพระชนม์เพียงไม่ถึงปีจึงทำให้ราชินีจินกูซึ่งเป็นมเหสีของกษัตริย์ชูไอ และพระมารดา ของ โอจิน จึงต้องขึ้นนั่งบัลลังก์ปกครอง ยามาโตะ ต่อไป และครองบัลลังก์อยู่
จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 269 (พศ 812) จึงสิ้นพระชนม์ลง จากนั้นได้สืบทอด บัลลังก็ต่อแก่กษัตริยโอจิน การขึ้นเป็นกษัตริย์ของ โอจิน นี้เองที่นับเป็นการ เริ่มตันของยุคสมัย โคฟุงในปี ค.ศ. 270 (พ.ศ. 813)

จบตำนานโบราณกำเนิดญี่ปุ่น

เหล่านี้เป็นตำนาน การอุบัติขึ้ของราชวงศ์ และการสถาปนาการสร้างราชอาณาจักร โดยเรื่องราวเหล่านี้ทำให้เราเห็นได้ว่า กษัตริย์เป็นสมมุติเทพที่สร้างอาณาจักรญี่ปุ่น และมีความเกี่ยวเนื่องกับเทพต่างๆอีกมากมาย เรื่องราวเหล่านี้เป็นพงศวดารมาจนปัจจุบันนี้

ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

เป็นอย่างไรบ้างกับความสลับซับซ้อนของเรื่องราวต่างๆของการกำเนิดญี่ปุ่น และเทพญี่ปุ่น จะเห็นว่า เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น จะมีความเกี่ยวเนื่องกับความคติความเชื่อ วัฒนธรรมต่างๆ รวมไปถึงเรื่องเครื่องรางญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน  ขนบธรรมเนียม ประเพณี ความเชื่อเหล่านี้ สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพชนจนถึงคนรุ่นปัจจุบัน ดังนั้นแล้ว บางอย่างเห็นว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าดูจริงๆแล้วรายละเอียดเยอะมาก

สำหรับท่านที่อ่านเรื่องเหล่านี้แล้วไม่ค่อยเข้าใจ โปรดกลับไปตั้งต้นอ่าน ตั้งแต่ภาค 1 แล้วเรียงตามลำดับ จะเข้าใจถึงความเป็นไปความเป็นมาได้อย่างเป็นลำดับ  โดยเราจะทำลิ้งค์ไว้ให้ด้านล่างนี้

ขอบคุณสำหรับการติดตามเรา

ขอบคุณสำหรับการติดตาม เราเป็นเว็บไซด์เล็กๆ ที่ไม่มีงบสำหรับโฆษณามากนัก เราที่ตั้งใจทำงานเพื่อบอกกล่าวถึงเรื่องราว วัฒนธรรมญี่ปุ่น และประเพณี ที่ถูกต้อง เราต้องอ่านหนังสืออย่างน้อย 25 แผ่น เพื่อจะเขียนเรื่องราว ที่ถูกต้อง 1 หน้าเล็กๆนี้ หากผู้อ่านเห็นว่า เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมของญี่ปุ่นแล้ว สามารถแชร์บทความใน Facebook ลิ้งกลับและให้เครดิตมายัง  Siamkane.com เราด้วยวิธีที่ถูกต้องด้วยครับ

นอกจากนี้ เรายังได้จัดจำหน่ายสินค้า แมวกวัก เครื่องรางญี่ปุ่น และกิ๊ฟช็อปญี่ปุ่นอื่นๆ เล็กน้อยๆ ถึงแม้เราจะไม่ได้ถูกที่สุดในตลาด แต่เราตั้งใจอยากให้เกิดเว็บไซด์คุณภาพเกิดขึ้นในไทยบ้าง หากคิดว่าเคมีของพวกเราตรงกันแวะพูดคุยทักทายกันได้ รวมถึงอุดหนุนสินค้า หรือ ซื้อกาแฟเล็กๆน้อยๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับพวกเราได้ผลิตผลงานที่มีคุณภาพ เพื่อลูกค้าต่อไปครับ