IXylyUtylT

ใบที่ 13 ของนำโชค 

ต้นไผ่

ต้นไผ่ (竹, Take) เป็นสัญลักษณ์ที่มีความสำคัญในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ต้นไผ่เป็นพืชที่แข็งแรง ยืดหยุ่น และเจริญเติบโตได้รวดเร็ว จึงถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของ ความอดทน ความยืนหยัด และความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ ต้นไผ่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการปรับตัวตามสภาพแวดล้อม เนื่องจากต้นไผ่สามารถโค้งงอรับแรงลมได้โดยไม่หัก จึงเป็นเครื่องเตือนใจถึงความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต

ในเทศกาลและประเพณีญี่ปุ่น ต้นไผ่ยังปรากฏในรูปแบบของเครื่องประดับต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น:

  • คาโดมัตสึ (Kadomatsu, 門松): เป็นการจัดต้นไผ่และต้นสนในช่วงปีใหม่เพื่อเป็นที่พักพิงชั่วคราวของเทพเจ้า เชื่อว่าจะนำความโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ครอบครัว
  • ตำนานทาเคโทริ (竹取物語): เรื่องราวเกี่ยวกับตำนานเจ้าหญิงคางุยะ ที่พบในลำไผ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น

โคเคชิ (Kokeshi)

โคเคชิ (Kokeshi) เป็นตุ๊กตาไม้ดั้งเดิมของญี่ปุ่น มีลักษณะเฉพาะคือรูปร่างที่เรียบง่าย ตัวกลม ไม่มีแขนขา หัวกลมโต มีการวาดใบหน้าอย่างเรียบง่าย และมีการทาสีที่มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ โคเคชิมักทำจากไม้และถูกทาสีด้วยสีสันที่สวยงาม ลวดลายดอกไม้และเสื้อผ้าแบบดั้งเดิม

โคเคชิมีความหมายเชิงสัญลักษณ์เกี่ยวกับความสุข ความสงบสุข และยังเชื่อว่าเป็นของที่นำโชคลาภมาให้ บางครั้งโคเคชิยังถูกมองว่าเป็นของขวัญที่สื่อถึงความปรารถนาดี ความรัก และความเป็นมิตรระหว่างผู้ให้และผู้รับ

ดารุมะ (Daruma)

ดารุมะ (Daruma) เป็นตุ๊กตาญี่ปุ่นที่มีลักษณะเด่นเป็นรูปทรงกลมไร้แขนขา และมักทาสีแดง มีต้นกำเนิดมาจากพระภิกษุที่ชื่อว่า โบะดะฮิดะระมะ (Bodhidharma) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งนิกายเซน ตุ๊กตาดารุมะเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและความสำเร็จ โดยคนญี่ปุ่นนิยมวาดตาดวงหนึ่งในตอนที่ตั้งเป้าหมายไว้ แล้วเมื่อเป้าหมายสำเร็จจึงวาดตาอีกข้างหนึ่ง

ในเชิงความเชื่อ ดารุมะถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เปรียบเสมือนกับสุภาษิตที่ว่า “ล้มเจ็ดครั้ง ลุกแปดครั้ง” (七転び八起き)

 

แมวกวัก

แมวกวัก (招き猫, Maneki Neko) เป็นเครื่องรางของญี่ปุ่นที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ในการ นำโชคลาภ ความมั่งคั่ง และความเจริญรุ่งเรือง ค้าขาย เรียกลูกค้า เงินทอง  มาสู่เจ้าของ เป็นที่นิยมในร้านค้าและบ้านเรือน โดยแมวมักจะถูกวางไว้หน้าร้านเพื่อดึงดูดลูกค้าและโชคดี

ลักษณะของแมวกวักคือตัวแมวที่ยกขาหน้าขึ้นมาในท่ากวัก โดยแต่ละข้างมีความหมายต่างกัน:

  • ขาซ้ายที่ยกขึ้น: เชื่อกันว่านำโชคด้านการเรียกลูกค้าเข้าร้านหรือบ้าน
  • ขาขวาที่ยกขึ้น: นำความมั่งคั่งและโชคลาภทางการเงินมาให้
  • ขาทั้งสองข้างที่ยกขึ้น: สื่อถึงการปกป้องและนำพาความสุขความมั่งคั่งมาให้พร้อมกัน

เต่า

เต่า (亀, Kame) ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของ ความยืนยาว ความอดทน อายุยืน และสุขภาพที่ดี เต่าเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนยาว จึงถูกมองว่าเป็นเครื่องหมายของชีวิตที่มั่นคงและยาวนาน ในเชิงความเชื่อ เต่ามักถูกใช้ในพิธีกรรมหรือของตกแต่งที่เกี่ยวข้องกับการขอพรเพื่อชีวิตที่ยืนยาวและสุขภาพแข็งแรง

เต่ามักปรากฏในงานศิลปะญี่ปุ่น เช่น ภาพวาด เครื่องปั้นดินเผา และลวดลายบนผ้า นอกจากนี้ เต่ายังเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ได้รับความเคารพในศาสนาชินโตและศาสนาพุทธ เชื่อกันว่าเต่าสามารถเชื่อมโยงกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และนำโชคดีมาให้ผู้ที่เคารพบูชา

เพิ่มเติม…

โอนิ (鬼, Oni)

โอนิ (鬼, Oni) ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นมักเป็นที่รู้จักในฐานะ ปีศาจ หรือ ยักษ์ ที่มีลักษณะน่ากลัวและมักปรากฏในตำนานหรือนิทานพื้นบ้าน ในแง่ของภาพลักษณ์ทั่วไป โอนิมักเป็นตัวแทนของความชั่วร้ายหรือภัยอันตราย อย่างไรก็ตาม โอนิในบางบริบทก็มีความหมายเชิงบวกและเป็นที่เคารพนับถือ เนื่องจากโอนิยังมีบทบาทในฐานะ ผู้ปกป้อง และมีความหมายที่ดีในด้านโชคลางเช่นกัน

ความหมายที่ดีและความเชื่อด้านโชคลางของโอนิ ได้แก่:

1. ผู้ปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย

ในบางภูมิภาคของญี่ปุ่น โอนิไม่ได้ถูกมองว่าเป็นตัวร้ายเพียงอย่างเดียว แต่เป็น ผู้ปกป้อง หรือ พิทักษ์ สถานที่ต่าง ๆ เช่น บ้าน วัด หรือศาลเจ้า เชื่อว่าโอนิสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายหรือวิญญาณร้ายออกไปได้ การมีรูปปั้นหรือภาพวาดของโอนิไว้ในบ้านหรือสถานที่สำคัญ ๆ จะช่วยป้องกันภัยและคุ้มครองผู้คนจากอันตราย

2. สัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและความกล้าหาญ

โอนิมักถูกมองว่าเป็นตัวแทนของ ความแข็งแกร่งและพละกำลัง เนื่องจากโอนิมีลักษณะของยักษ์ที่ทรงพลัง จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสามารถในการเอาชนะอุปสรรคหรือความท้าทายต่าง ๆ บางคนเชื่อว่าการมีรูปปั้นโอนิในบ้านจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความกล้าหาญให้แก่ผู้ที่อยู่อาศัย

3. ขับไล่ความโชคร้ายในเทศกาลเซ็ตสึบุน (Setsubun)

ในเทศกาลเซ็ตสึบุน ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี ผู้คนจะทำพิธี โยนถั่วเพื่อขับไล่โอนิ ซึ่งในพิธีนี้ โอนิมักเป็นตัวแทนของโชคร้ายหรือความชั่วร้ายที่ถูกขับไล่ออกไปจากบ้าน ในขณะเดียวกัน ก็เชื่อว่าเมื่อขับไล่โอนิออกไป จะมี โชคดี และ ความสงบสุข เข้ามาแทนที่ จึงกลายเป็นความเชื่อโชคลางที่เชื่อมโยงโอนิกับการปัดเป่าสิ่งไม่ดีและเรียกความโชคดีเข้ามา

4. โอนิในฐานะผู้พิทักษ์

แม้ว่าโอนิจะมีภาพลักษณ์น่ากลัว แต่ในบางบริบททางศาสนาและประเพณี โอนิถูกมองว่าเป็น ผู้พิทักษ์ โดยเฉพาะในวัดหรือศาลเจ้าที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้คนจากภัยอันตราย รูปปั้นโอนิที่ตั้งอยู่ในวัดบางแห่งเชื่อว่าจะช่วยขจัดปัดเป่าความโชคร้ายและคุ้มครองจากสิ่งไม่ดี

5. การขอพรจากโอนิ

ในบางพื้นที่ของญี่ปุ่น มีความเชื่อว่าโอนิสามารถ ช่วยให้คำอธิษฐานเป็นจริง ได้ โดยเฉพาะเมื่อผู้คนแสดงความเคารพและอ่อนน้อม โอนิจะตอบแทนด้วยการนำพาความโชคดีและความสำเร็จมาให้

6. สัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงและการเริ่มต้นใหม่

โอนิยังมีบทบาทในฐานะตัวแทนของการทำลายล้างสิ่งเก่าและเปิดทางให้กับการเริ่มต้นใหม่ โดยเฉพาะในช่วงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล เทศกาลเซ็ตสึบุนที่เกี่ยวข้องกับโอนิก็เป็นการแสดงถึงการขับไล่พลังลบและการนำพาความโชคดีมาในฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึง

This entry was posted in ไม่มีหมวดหมู่. Bookmark the permalink.