เครื่องรางญี่ปุ่น เทพจิ้งจอก เทพญี่ปุ่น คิตสึเนะ

Kitsune-Inari เทพจิ้งจอก ศาลเจ้า ฟูจิมิ อินาริ เกียวโต
ในลัทธิชินโตยังเชื่อว่า หมาจิ้งจอกเป็นผู้เดินสารของเทพเจ้าอินาริ ความเชื่อนี้ทำให้หมาจิ้งจอกมีบทบาทในเรื่องเหนือธรรมชาติ เพื่อดลบันดาลให้เกิดความอุมสมบูรณ์ขึ้น ที่หน้าศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ที่จังหวัดเกียวโต จึงมีรูปปั้นหมาจิ้งจอกประดับอยู่ เสมือนเป็นยามหรือทวารบาลรักษาทางเข้า โดยบางตัวจะคาบสิ่งที่มีลักษณะคล้ายสาส์น อันหมายถึงเป็นตัวแทนหรือสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า หรือบางตัวคาบรวงข้าว หมายถึง การเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ อนึ่ง ญี่ปุ่นยังเชื่อว่า จิ้งจอกมีหางมากเท่าไร ก็หลักแหลมและทรงอำนาจมากเท่านั้น ฉะนั้น จึงมีผู้บูชาจิ้งจอกเสมือนเทพองค์หนึ่งเลยทีเดียว

เทพอินาริ

เนื่องจากดั้งเดิมที ญี่ปุ่นเป็นประเทศกสิกรรมที่ให้ความสำคัญกับการปลูกข้าว  เทพอินาริ เทพแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหาร การค้าและอุตสาหกรรม  ประจำศาลเจ้าอินาริ โดยมีความเชื่อว่าในรวงข้าวจะมีเทพเจ้าสถิตอยู่จึงมีการทำพิธีกราบไหว้บูชา จนกลายมาเป็นศาลเจ้าอินาริ (Inari Shrine) ที่สถิตของเทพเจ้าแห่งพืชพรรณธัญญาหาร อุคาโนมิทามะโนะคามิ (Ukanomitama no Kami) มีการเรียกเทพเจ้า โออินาริซัง (Oinari-san) หรือ โอคิตสึเนะซัง (Okitsune-san) ที่แปลว่าจิ้งจอก นั่นเอง
Ukanomami-Tamanokami
Ukanomami-Tamanokami เทพแห่งพืชพันธ์ธัญญาหาร

เทพจิ้งจอก โอคิตสึเนะซัง

เหตุผลที่ศาลเจ้าอินาริถูกเรียกว่าโอคิตสึเนะซัง เพราะในสมัยก่อนนั้นคิตสึเนะ หรือก็คือสุนัขจิ้งจอก จะโผล่มาให้เห็นตามบริเวณที่มีผู้คนอาศัยอยู่ ชาวบ้านจึงถือกันว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นผู้รับใช้ของเทพเจ้าอุคาโนมิทามะโนะคามิ ซึ่งใช้สำหรับส่งสาร์นของเทพ มีฤทธิ์เหนือธรรมชาติ ผู้คนเลยเชื่อมโยงเรื่องราวระหว่างสุนัขจิ้งจอก เทพ และศาลเจ้ามาแต่ช้านานแล้ว
Fushimi Inari shrine, Kyoto
Fushimi Inari shrine, Kyoto

ศาลเจ้า Fushimi Inari

ตั้งอยู่ใน อยู่ที่ตำบลฟุชิมิ ในเมืองเกียวโต โดยตั้งแต่สมัยโบราณ ญี่ปุ่นเป็นประเทศกสิกรรมที่ให้ความสำคัญกับการปลูกข้าว โดยมีความเชื่อว่าในรวงข้าวจะมีเทพเจ้าสถิตอยู่จึงมีการทำพิธีกราบไหว้บูชา จนกลายมาเป็นศาลเจ้าอินาริ (Inari Shrine) ที่สถิตของเทพเจ้าแห่งพืชพรรณธัญญาหาร การค้าและอุตสาหกรรม  อุคาโนมิทามะโนะคามิ (Ukanomitama no Kami)
Torii Fushimi Inari
เสาโทริอิ Torii Fushimi Inari, Kyoto

เสาโทริอิ พันต้น

ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทชะ (Fushimi Inari Taisha) นอกจากจะถือเป็นศูนย์กลางของศาลเจ้าอินาริทั่วประเทศ มีผู้คนมาสักการะมากมายในฐานะ เทพเจ้าแห่งการเกษตร การค้าและอุตสาหกรรม สำหรับชาวต่างชาติมักจะมาชมความงามของเซ็มบงโทริอิ (Senbon Torii : เสาโทริอิพันต้น) เสาโทริอิสีชาดที่เรียงตัวทอดยาวกว่า 4 กิโลเมตรตามแนวเชิงเขาอินาริ ซึ่งถ้าจะนับเสาโทริอิจริงๆแล้ว น่าจะถึงหมื่นต้นเลยด้วยซ้ำ  บรรดาเสาโทริอิที่มากมายของศาลเจ้าแห่งนี้นั้น ล้วนเป็นศรัทธาจากบริษัท ห้างร้าน และโรงงานในญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละต้นจะมีการจารึกผู้บริจาคไว้ ชาวญี่ปุ่นนับถือเทพอินาริในด้านการอุปถัมภ์ค้ำชูและส่งเสริมความเจริญในการงานและกิจการ ซึ่งความศรัทธานี้ยังคงอยู่จนตราบจนปัจจุบัน

อื่นๆ เกี่ยวกับเทพจิ้งจอก

  • จิ้งจอก เมื่อมีอายุถึง 300 ปี ว่ากันว่ามันจะเริ่มมีพลังเวทย์มนต์อยู่ในตัวและกลายเป็นปิศาจจิ้งจอก
  • จิ้งจอกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ จิ้งจอกดีและจิ้งจอกจรจัด
  • จิ้งจอกดี เป็นการเรียกแบบกว้างๆของจิ้งจอกที่มีความประพฤติดี จิ้งจอกรับใช้ของเทพเจ้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในกลุ่มนี้ก็มีจิ้งจอกที่นิสัยแย่อยู่ด้วย
  • จิ้งจอกจรจัด คือ จิ้งจอกที่ไม่มุ่งเน้นการบำเพ็ญตบะเพื่อให้กลายเป็นเซียนจิ้งจอกในแบบของจีน แต่เน้นบำเพ็ญเพื่อให้พลังวิญญาณสูงขึ้น จิ้งจอก 9 หางที่แปลงร่างเป็นหญิงล่มเมืองก็จัดอยู่ในประเภทนี้แต่ดุร้ายกว่าเพราะทำอันตรายต่อมนุษย์
  • ปกติแล้วจิ้งจอกจะมีเพียงแค่หางเดียว แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานขึ้นเท่าไหร่ พลังปิศาจในตัวก็จะสูงขึ้น พออายุใกล้ครบ 1000 ปี ก็จะมีถึง 9 หาง แต่ละหางจะงอกออกมาทุก 50 – 100 ปี)
นอกจากนี้ จิ้งจอกแต่ละตัวจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปตามจำนวนหางและจำนวนปีที่มีชีวิตอยู่มา และถ้ายิ่งบำเพ็ญเพียรก็จะทำให้มีชื่อเรียกหรือลำดับชั้นที่สูงขึ้นกว่าเดิมได้ เรามาดูลำดับขั้นของการฝึกบำเพ็ญของเหล่าจิ้งจอก
  • จิ้งจอก อายุ 1 – 100 ปี (เริ่มบำเพ็ญตั้งแต่อายุ 50 ปี)
พอจิ้งจอกมีอายุ 50 ปี ก็จะออกเดินทางไปบำเพ็ญเพียรและศึกษาวิชา ที่ภูเขาหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พอมีอายุถึง 100 ปี ก็จะกลายเป็นจิ้งจอกที่มีพลังเวทย์มนต์สูงขึ้น
  • ปิศาจจิ้งจอก  – อายุ 100 – 500 ปี
ในขั้นนี้เราจะเรียกว่า “ปิศาจจิ้งจอก” นางต้าจีจิ้งจอกเก้าหางชื่อดังที่ล่มราชวงศ์โจวก็ยังอยู่ในขั้นนี้ ซึ่งปีศาจจิ้งจอกนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องมี 9 หางก็สามารถบำเพ็ญให้สูงขึ้นไปอีกระดับนึงได้ (แต่ปีศาจจิ้งจอกที่แปลงร่างเป็นนางต้าจีเป็นจิ้งจอกจรจัดที่มัวเมาไม่ยอมบำเพ็ญตามแบบแผน)
  • เทพจิ้งจอก – อายุ 500 – 900 ปีขึ้นไป
ระดับนี้จะถูกเรียกว่า “เทพจิ้งจอก” ซึ่งจะกลายเป็นผู้รับใช้เทพเจ้า  และขนส่วนมากจะกลายเป็นสีขาว จิ้งจอกที่บำเพ็ญมาได้ถึงระดับนี้แล้ว พลังเวทย์มนต์และพลังวิญญาณจะเพิ่มมากขึ้น หางที่มีก็จะค่อยๆงอกเพิ่มขึ้น (บางตัวหางก็ยังไม่ถึง 9 หางแต่พลังวิญญาณอยู่ในระดับสูง)
  • จิ้งจอกสวรรค์  – อายุ 1,000 ปีขึ้นไป
เป็นจิ้งจอกที่บำเพ็ญมามากกว่า1000 ปี จะมีพลังเหนือธรรมชาติ มีตาทิพย์มองเห็นได้ไกลกว่า 1000 ลี้ และสามารถทำอะไรได้หลายๆอย่าง จะถูกเรียกว่าอาศัยอยู่ตามศาลเจ้า พออายุประมาณ 2000 ปี ก็จะออกจากศาลเจ้า เพราะเริ่มมีพลังที่จะทำอะไรได้อย่างอิสระ
  • จิ้งจอกฟ้า – อายุ 3,000 ปีขึ้นไป
มีพลังอำนาจเกินกว่าที่เราจะคาดคิดได้ สามารถแยกกายละเอียดของตัวเองออกมาผสมผสานไปกับธรรมชาติได้ ทำให้ร่างกายค่อยๆสลายไปเหลืออยู่แต่พลังวิญญาณ ยิ่งไปกว่านั้นแล้วรูปลักษณ์ของจิ้งจอกฟ้าคือจะไม่มีหางเหลืออยู่เลย

สรุปสุดท้าย

คิซึเนะ เทพจิ้งจอก เป็นผู้ส่งสาร์นของเทพ อุคาโนมิทามะโนะคามิ ซึ่งเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ พืชพันธัญญาหาร ความมั่งคั่ง  ซึ่งคิซึเนะเป็นเทพจิ้งจอกที่มีอิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติ และถือว่าเป็นผู้ส่งสาร์นระหว่างเทพและผู้คน ทำให้ผู้คนจึงมักบูชาเทพจิ้งจอก เพื่อเสริมดวงเรื่องโชคลาภ เงินทอง ร่ำรวย ซึ่งมักจะนิยม เครื่องรางจากศาลเจ้าฟุจิมิอินาริแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ท่านเทพได้สถิตอยู่ให้ผู้คนได้เคารพ กราบไว้บูชากันมาจนปัจจุบันนี้

ฝากร้านด้วยคร้าบ

สุดท้ายขออนุญาตฝากร้าน โดยมีเครื่องรางญี่ปุ่น และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทพจิ้งจอก ที่เราได้ไปศักการะบูชามาจาก ศาลเจ้า Fushimi Inari , Kyoto ตามข้างล่างนี้นะครับ
เครื่องรางญี่ปุ่น Fushimi Inari Shrine
This entry was posted in ไม่มีหมวดหมู่. Bookmark the permalink.