ตุ๊กตาดารุมะที่เห็นทั่วไปนั้นล้วนมีความหมายแอบแฝงอยู่ ซึ่งเป็นความหมายในทางคติธรรมของชาวญี่ปุ่น ขนคิ้วของตุ๊กตาดารุมะเปรียบเสมือน “นกกระเรียน” ส่วนหนวดและเคราดำ เปรียบเสมือน “กระดองเต่า” ซึ่งในความหมายของ นกกระเรียน และเต่าก็คือ การมีชีวิตที่ยืนยาว ทำให้ตุ๊กตาดารุมะเป็นเหมือนตัวแทนแห่งความโชคดี และสุขสงบ รอบดวงหน้าคือไม้ไผ่และจมูกคือต้นพลัม ต้นไม้ทั้งหมดเป็นไม้มงคลสำหรับการดำรงชีวิตที่ดีและยืนยาว สมัยปัจจุบันก็มีการเปรียบเทียบใบหน้าดังนี้คือ ขนคิ้วเป็นนกกระเรียน และมีหนวดเคราเป็นเต่า มีความหมายที่แสดงถึงชีวิตที่ยืนยาวด้วยเช่นกัน
ลักษณะของดารุมะ
ดารุมะ เป็นตุ๊กตาที่ไม่มีแขนและไม่มีขา ส่วนฐานดั้งเดิมทีมีลักษณะโค้งกลมมน ด้านบนมีลักษณะเบา และด้านล่างมีลักษณะหนัก ทำให้จัดอยู่ในรูปแบบของตุ๊กตาล้มลุก คือไม่ว่าจะพลิกหรือทำให้ล้มอย่างไร ก็จะกลับมาตั้งตระง่าน ตั้งตรงอยู่เหมือนเดิม ทำให้กลายเป็นปริศนาธรรมไปด้วย หมายถึงการไม่ยอมแพ้ การบากบั่น และความพยายาม สุดท้ายแล้วไม่ว่าล้มอย่างไรก็ทำให้กลับมายืนยังที่เดิมได้ นั่นคือ ความสำเร็จนั่นเอง
ขอพรจากดารุมะ
จุดเด่นของตุ๊กตาดารุมะคือ ไม่มีตาทั้ง 2 ข้าง ธรรมเนียมในการขอพรคือ จะมีการเขียนความหมายและขอพรเป็นคันจิที่ตรงบริเวณท้องของตุ๊กตาดารุมะส่วนใหญ่ก็มักจะเกี่ยวกับความเจริญก้าวหน้า ประสบผลสำเร็จในเรื่องต่างๆ สุขภาพ และอื่นๆ พร้อมทั้งเขียนความปราถนาเพิ่มเติมไว้บริเวณหัว ข้างลำตัวและด้านหลัง เมื่อครั้งแรกที่ได้มานั่นจะแต้มหมึกดำแต้มดวงลงบนดวงตาด้านขวาก่อน พร้อมเขียนคำอธิษฐานเพิ่มเติมที่อยากให้เป็นจริงและจะเก็บตุ๊กตาไว้บนหิ้ง และเมื่อหากสมปรารถนาก็จะนำตุ๊กตาดารุมะ มาแต้มตาข้างที่เหลือ
ประวัติของดารุมะ
ประวัติของดารุมะ เชื่อกันว่าท่านนักบวชชาวอินเดียเป็นบุคคลที่มีชีวิตอยู่จริง นั่นคือท่านประมาจารณ์ตั๊กม้อนั่นเอง หรือพระโพธิธรรม ผู้เป็นสังฆปรินายกองค์ที่ 28 และ ด้วยความที่ท่านสนใจในรสพระธรรมอย่างลึกซึ้ง ท่านจึงออกบวชตั้งแต่เยาว์วัย ศึกษาพระธรรมจนแตกฉาน
ทำไมดารุมะจึงสีแดง
ส่วนสาเหตุที่ตุ๊กตาดารุมะส่วนใหญ่ถูกทาสีด้วยสีแดง เป็นเพราะในสมัยก่อน พระโพธิธรรม ปรมาจารย์ตั๊กม้อ ทรงสวมจีวรที่มีสีแดง จึงทาสีตัวลำตัวดารุมะให้เป็นสีแดง อีกทั้งสีแดงยังเป็นสีที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่า สามารถขับไล่ภูตผีปีศาจ เนื่องจากมีความเชื่อว่า “เทพฝีดาษ” ที่ทำให้เกิดโรคฝีดาษนั้นไม่ชอบสีแดง ซึ่งความเชื่อว่า สีแดงช่วยให้ปลอดภัยจากโรคภัยต่างๆได้ ดังเฉดเช่นสีแดงก็ที่ใช้ทา Akabeko (วัวแดง) เพื่อป้องกันโรคร้ายด้วยเช่นกันดังนั้นแล้วคนญี่ปุ่นมักให้ตุ๊กตาดารุมะเป็นของขวัญแก่เด็กๆ เพราะเชื่อว่าจะทำให้เด็กๆ แข็งแรง และปลอดภัยจากเคราะห์ร้าย ต่างๆนานา
คติ ปรัชญา แฝงดารุมะ
นอกจากนี้ ที่ตุ๊กตาดารุมะมีลักษณะคล้ายตุ๊กตาล้มลุก เพราะสื่อถึงความหมายอีกอย่างหนึ่งให้คนได้คิดกันก็คือ ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้ง ก็สามารถลุกกลับขึ้นมาได้เสมอ จนสามารถประสบผลสำเร็จนั่นเอง
ดารุมะเช่าซื้อได้ที่ไหน
ในสมัยก่อน หาซื้อดารุมะได้ในช่วงปีใหม่เท่านั้นเพราะมีวางขายในช่วงต้นเดือนมกราคมในตลาดตามศาลเจ้า แต่ปัจจุบันนี้ดารุมะหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายของที่ระลึก และมีขายทั้งปี หาง่าย นอกจากจะเป็นเครื่องรางญี่ปุ่นแล้ว ในบางครั้งก็คนญี่ปุ่นก็ถือว่าเป็นของฝาก ของที่ระลึกกันได้อีกด้วย และหลังจากพิธีเผาทำลายดารุมะ ที่ส่วนใหญ่จะจัดช่วงเดือนมกราคม จากนั้นก็ชาวญี่ปุ่นจะซื้อตุ๊กตาดะรุมะตัวใหม่กลับไปเพื่ออธิษฐานขอพรและเริ่มต้นสิ่งใหม่ในปีใหม่นั่นเอง
เมืองที่ได้ชื่อว่าผลิตดารุมะมากที่สุด มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจฝึกทำดารุมะกันอย่างแพร่หลาย มีดารุมะวางขายเยอะที่สุดก็อยู่ที่เมืองทะกะซะกิ ในจังหวัดกุนมะ
เอกลักษณ์ของดารุมะแต่ละพื้นที่
- กุนมะดารุมะ ซึ่งช่างฝีมือได้สร้างสรรค์ตุ๊กตาดารุมะด้วยมือทีละตัวๆ ส่วนใหญ่เป็นสีแดงคิ้วเป็นรูปนกกระเรียนและหนวดที่แก้มเป็นรูปเต่า ด้านล่างใบหน้ามีอักษรจีนหรือตัวคันจิเขียนเอาไว้ว่า “ฟุคุ” ซึ่งแปลได้ง่ายๆ ว่า “ความโชคดี” ดังนั้น จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “ฟุคุดารุมะ
- ชิซูโอกะดารุมะ มีการผลิตที่มีความนิยมอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ
- ชิซูโอกะฮิเงะดารุมะ ฮิเงะ แปลว่า ขน โดยมีชื่อเรียกตรงตัวว่ามีการทำดารุมะโดยใช้ขนจริงๆ มาทำเป็นคิ้ว หนวด และเครา ยังคงเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมจนกระทั่งปัจจุบัน
- ซุสุกะวะดารุมะ จะมีลักษณะโดยรวมๆคล้ายกันกับ ชิซูโอกะฮิเงะดารุมะ แต่มีหน้าตาที่ดูอ่อนช้อยและหวานกว่า
- มัตสึโมะโตะดารุมะ ของเมืองมัตสึโมะโตะ มีคิ้วและหนวดเป็นรูปทรงกลมที่ทำจากขนจริงๆ เชื่อกันว่าขนที่ขดเป็นก้อนกลมๆ จะทำให้เงินทองและความโชคดีวนเวียนอยู่ในบ้าน ไม่มีวันหายออกไปไหน
- เซ็นไดดารุมะ ตุ๊กตาดารุมะซึ่งทำที่เมืองเซ็นได มีชื่อเรียกว่า “มัตสึกะวะดารุมะ” ซึ่งทำมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 โดยซามูไรที่มีชื่อว่า โทะโยะโนะชิง มัตสึกะวะ ด้านหน้าของตุ๊กตาจะทาสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีของท้องฟ้าและน้ำทะเล ส่วนด้านหลังมีสีแดง คิ้วของดารุมะเมืองนี้ทำจากขนจริงๆ อีกเช่นกัน ที่สำคัญ ดารุมะของที่นี่มีตาดำเพราะอยากให้ผู้รับสามารถมองเห็นเรื่องดีร้ายอย่างชัดเจน และเตือนให้ระลึกถึงมะสะมุเนะ ดะเตะ ซามูไรในตระกูลดะเตะ ซึ่งเป็นตระกูลดังและมากอิทธิพลของญี่ปุ่นทางเหนือในสมัยโบราณ เพราะเขาชนะศึกหลายต่อหลายครั้งทั้งๆ ที่มีดวงตาเพียงดวงเดียว
ความหมายของสีบนดารุมะ
ซึ่งแต่ละพื้นที่ในญี่ปุ่นมีความหมายดูแล้วค่อนข้างใกล้เคียงกัน แตกต่างกันไป แตกต่างกันเล็กน้อย พอสรุปได้ดังนี้
- สีแดง – ความสำเร็จ ความเป็นอยู่ที่ดี เจริญรุ่งเรือง และสันติภาพ
- สีฟ้าหรือสีน้ำเงิน – ความสำเร็จ โชคดี ในหน้าที่การงาน
- สีเหลือง – ความร่ำรวย มั่งคั่ง มากด้วยทรัพย์สินเงินทอง
- สีม่วง – อายุยืน และสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
- สีขาว – ความสำเร็จ ลาภลอย โชคดี เหมือนสีฟ้า
- สีดำ – แคล้วคลาดปลอดภัย ขับไล่ภัยพิบัติ ป้องกันพลังร้าย
- สีทอง – การแข่งขัน ชัยชนะ และความร่ำรวย
- สีเงิน – ขยัน มุ่งมั่น อุตสาหะ ทำน้อยได้มาก ป้องกันสิ่งชั่วร้าย
- สีชมพู – ความรัก การแต่งงาน และความสัมพันธ์ที่ดี
- สีเขียว – ความมีชีวิตชีวา สมปรารถนา การศึกษา
- สีส้ม – ความฝันและความปรารถนา มั่งมีศรีสุข เหลือกินเหลือใช้